"บอลลีวูด" (Bollywood) เป็นชื่อเรียกของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ภาษาฮินดี ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย ต่อมามีการรวมตัวกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดียภาษาอื่นๆ ได้แก่ ทมิฬ เบนกาลี แมละยาลัมและกันนาดา บอลลีวูดจึงถือเป็นผู้ผลิตภาพยนตร์รายใหญ่ที่สุดในโลก ในแง่ของจำนวนภาพยนตร์ที่ผลิตออกมา และอาจรวมไปถึงจำนวนตั๋วชมภาพยนตร์ที่ขายได้ด้วย
คำว่า "บอลลีวูด" (Bollywood) เกิดจากการผสมคำระหว่างคำว่า "บอมเบย์" (Bombay) กับคำว่า "ฮอลลีวูด" (Hollywood)โดยบอมเบย์เป็นชื่อเมืองในอินเดีย ที่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นเมืองมุมไบ และฮอลลีวูด ศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์ชื่อดังของสหรัฐฯ ที่เรารู้จักกันดี
ภาพยนตร์ของบอลลีวูดโดยปกติแล้วจะเป็นภาพยนตร์เพลง แทบจะไม่มีการสร้างภาพยนตร์โดยปราศจากดนตรีและการเต้นรำ เพราะผู้ชมชาวอินเดียคาดหวังกับภาพยนตร์อย่างเต็มที่ ว่าจะคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป พวกเขาชอบภาพยนตร์ที่มีทั้งดนตรีและการเต้นรำ ที่เกี่ยวกับความรัก เรื่องตลกขบขันและน่าตื่นเต้น ท้าทายความตาย ทั้งหมดนี้รวมกันเป็นบทเพลงต่างๆ ในภาพยนตร์ซึ่งมีความยาวรวมกัน 3 ชั่วโมง โดยจะมีการพักการฉายเป็นช่วงๆ
โครงเรื่องของภาพยนตร์อินเดียมักจะเป็นแนวประโลมโลก มีเนื้อหาเกินความจริง ที่บ่อยครั้งมักจะใช้เนื้อหาแบบเดิม ตามสูตรสำเร็จของภาพยนตร์อินเดียเช่น คู่รักดารา นักการเมืองทุจริต ฝาแฝดที่ต้องพลัดพรากกันตั้งแต่เกิด เหล่าตัวโกงที่สมคบคิดแต่แผนชั่วร้าย พ่อแม่ใจร้าย หญิงงามเมืองผู้มีจิตใจงดงาม โชคชะตาที่พลิกผันและความบังเอิญที่เกิดขึ้นอย่างง่ายดาย
การเต้นรำทำเพลงในภาพยนตร์อินเดียมีความสำคัญมาก เพราะผู้คนชาวอินเดียเติบโตมากับดนตรี บทเพลงต่างๆ ในภาพยนตร์จึงมีความสำคัญตามไปด้วย ถ้าดนตรีในภาพยนตร์ไม่มีความไพเราะ หรือไม่เป็นที่ถูกใจของผู้ชม อาจส่งผลกระทบถึงรายได้ของภาพยนตร์เรื่องนั้นเลยทีเดียว
จากการสอบถามชาวอินเดียขนานแท้ ว่าทำไมภาพยนตร์อินเดียจึงต้องเต้นและร้องเพลงกันตลอดทั้งเรื่องนั้น อาจจะมาจากการที่พระราชาของอินเดียในสมัยก่อนทรงพักผ่อนพระอิริยาบถ และทรงหาความสำราญโดยการชมการแสดงที่จัดขึ้นในพระราชสำนัก ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเป็นการเต้นรำในดนตรีตามแบบฉบับอินเดีย ซึ่งต่อมาเป็นที่นิยมและแพร่หลายในสามัญชนชาวอินเดียทั่วไป และดนตรีก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของพวกเขาไปโดยปริยาย ดังนั้น หากจะสร้างภาพยนตร์ให้โดนใจชาวอินเดียก็ต้องใส่เสียงดนตรีไปให้ผู้ชมได้โยกย้ายจึงจะประสบความสำเร็จ
ข้อมูลจาก http://www.89powerzone.com/
ถามตอบรอบโลกวันนี้มีคำตอบให้แก่คุณประเทือง ที่สงสัยว่า “บอลลีวูด” (Bollywood) ที่ได้ยินกันอยู่บ่อยๆ เป็นชื่อเรียกภาพยนตร์ของอินเดียหรือไม่ และทำไมภาพยนตร์อินเดียจึงต้องเต้นและร้องเพลงกันตลอดทั้งเรื่อง
ตอบลบ“บอลลีวูด” (Bollywood) เป็นชื่อเรียกของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ภาษาฮินดี ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย ต่อมามีการรวมตัวกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดียภาษาอื่นๆ ได้แก่ ทมิฬ เบนกาลี แมละยาลัมและกันนาดา บอลลีวูดจึงถือเป็นผู้ผลิตภาพยนตร์รายใหญ่ที่สุดในโลก ในแง่ของจำนวนภาพยนตร์ที่ผลิตออกมา และอาจรวมไปถึงจำนวนตั๋วชมภาพยนตร์ที่ขายได้ด้วย
คำว่า “บอลลีวูด” (Bollywood) เกิดจากการผสมคำระหว่างคำว่า “บอมเบย์” (Bombay) กับคำว่า “ฮอลลีวูด” (Hollywood) โดยบอมเบย์เป็นชื่อเมืองในอินเดีย ที่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นเมืองมุมไบ และฮอลลีวูด ศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์ชื่อดังของสหรัฐฯ ที่เรารู้จักกันดี
ภาพยนตร์ของบอลลีวูดโดยปกติแล้วจะเป็นภาพยนตร์เพลง แทบจะไม่มีการสร้างภาพยนตร์โดยปราศจากดนตรีและการเต้นรำ เพราะผู้ชมชาวอินเดียคาดหวังกับภาพยนตร์อย่างเต็มที่ ว่าจะคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป พวกเขาชอบภาพยนตร์ที่มีทั้งดนตรีและการเต้นรำ ที่เกี่ยวกับความรัก เรื่องตลกขบขันและน่าตื่นเต้น ท้าทายความตาย ทั้งหมดนี้รวมกันเป็นบทเพลงต่างๆ ในภาพยนตร์ซึ่งมีความยาวรวมกัน 3 ชั่วโมง โดยจะมีการพักการฉายเป็นช่วงๆ
โครงเรื่องของภาพยนตร์อินเดียมักจะเป็นแนวประโลมโลก มีเนื้อหาเกินความจริง ที่บ่อยครั้งมักจะใช้เนื้อหาแบบเดิม ตามสูตรสำเร็จของภาพยนตร์อินเดียเช่น คู่รักดารา นักการเมืองทุจริต ฝาแฝดที่ต้องพลัดพรากกันตั้งแต่เกิด เหล่าตัวโกงที่สมคบคิดแต่แผนชั่วร้าย พ่อแม่ใจร้าย หญิงงามเมืองผู้มีจิตใจงดงาม โชคชะตาที่พลิกผันและความบังเอิญที่เกิดขึ้นอย่างง่ายดาย
การเต้นรำทำเพลงในภาพยนตร์อินเดียมีความสำคัญมาก เพราะผู้คนชาวอินเดียเติบโตมากับดนตรี บทเพลงต่างๆ ในภาพยนตร์จึงมีความสำคัญตามไปด้วย ถ้าดนตรีในภาพยนตร์ไม่มีความไพเราะ หรือไม่เป็นที่ถูกใจของผู้ชม อาจส่งผลกระทบถึงรายได้ของภาพยนตร์เรื่องนั้นเลยทีเดียว
จากการสอบถามชาวอินเดียขนานแท้ ว่าทำไมภาพยนตร์อินเดียจึงต้องเต้นและร้องเพลงกันตลอดทั้งเรื่องนั้น อาจจะมาจากการที่พระราชาของอินเดียในสมัยก่อนทรงพักผ่อนพระอิริยาบถ และทรงหาความสำราญโดยการชมการแสดงที่จัดขึ้นในพระราชสำนัก ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเป็นการเต้นรำในดนตรีตามแบบฉบับอินเดีย ซึ่งต่อมาเป็นที่นิยมและแพร่หลายในสามัญชนชาวอินเดียทั่วไป และดนตรีก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของพวกเขาไปโดยปริยาย ดังนั้น หากจะสร้างภาพยนตร์ให้โดนใจชาวอินเดียก็ต้องใส่เสียงดนตรีไปให้ผู้ชมได้โยกย้ายจึงจะประสบความสำเร็จ